ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) โดยปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ขณะที่นักลงทุนรอคอยผลการเจรจาการค้าระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนในวันเสาร์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.70% ปิดที่ 384.87 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,538.97 จุด เพิ่มขึ้น 45.36 จุดหรือ +0.83% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,398.80 จุด เพิ่มขึ้น 127.77 จุด หรือ +1.04% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,425.63 จุด เพิ่มขึ้น 23.30 จุด หรือ +0.31%
บรรดานักลงทุนต่างก็จับตาการพบปะเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันเสาร์นี้ ซึ่งปธน.ทรัมป์แสดงความหวังว่า การเจรจากับจีนจะให้ผลดี แต่เขาไม่ได้ให้สัญญาใดๆ เกี่ยวกับการปรับลดภาษี
ปธน.ทรัมป์มีกำหนดพบกับปธน.สี จิ้นผิงในวันเสาร์นี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาญี่ปุ่น หรือ 09.30 น.ตามเวลาไทย นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น
หุ้นที่อ่อนไหวต่อความตึงเครียดด้านการค้า อาทิ กลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มรถยนต์ ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเฟียต บวก 0.41% หุ้นเดมเลอร์ เพิ่มขึ้น 1.30% และ หุ้นเรโนลต์ ปรับตัวขึ้น 1.54%
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นดอยซ์ แบงก์ เอจีของเยอรมนีด้วย หลังดอยซ์ แบงก์ ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
หุ้นดอยซ์ แบงก์ พุ่งขึ้น 3.32%
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังขานรับการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า ธนาคารกลางขนาดใหญ่จะผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภาษี