ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 22.65 จุด ขณะนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 10, 2019 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันนี้และวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิลและเน็ตฟลิกซ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,783.49 จุด ลดลง 22.65 จุด หรือ -0.08% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,979.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.68 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,141.73 จุด เพิ่มขึ้น 43.35 จุด หรือ +0.54%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังและชะลอการซื้อขาย ก่อนที่นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 10 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ และแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย.

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง นำโดยหุ้น 3M ดิ่งลง 2.06% หลังจากนักวิเคราะห์ของอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ต ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้น 3M ลงสู่ระดับ "sector perform" จากระดับ "outperform" ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจมหภาคและปัญหาทางด้านคดีความที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ ขณะที่หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ปรับตัวลง 0.4% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี ลดลง 0.37% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.2%

หุ้นเป๊ปซี่โค ปิดตลาดขยับลง 0.6% หลังจากราคาหุ้นพุ่งแรงในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการที่บริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.645 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.643 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นไปเปอร์ แจฟเฟรย์ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลง 0.8% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ไปเปอร์ แจฟเฟรย์ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทแซนเดอร์ โอนีล แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ในรูปของเงินสดและหุ้นมูลค่ารวม 485 ล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทเปิดตัว MacBook Air และ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วโฉมใหม่เมื่อวานนี้ ขณะที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์โคเวน แอนด์ โค คาดการณ์ว่า เน็ตฟลิกซ์จะได้ประโยชน์จากจำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทเปิดตัวภาพยนตร์ "Stranger Things" ซีรี่ 3 เมื่อเร็วๆนี้

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 0.7% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.3%

หุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นซีทริปดอทคอม อินเตอร์เนชันแนล และหุ้นนิว โอเรียนทัล เอ็ดดูเคชัน แอนด์ เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 3.1% และ 2.5% ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 18-19 มิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ