ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงในวันนี้ หลังจากเปิดตลาดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีผลประกอบการลดลง 3% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงของผลประกอบการรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ณ เวลา 21.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,327.42 จุด ลบ 4.61 จุด หรือ 0.02%
ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงกว่า 1% แม้ธนาคารเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ Tradeweb ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการซื้อขายพันธบัตรออนไลน์
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 1.95 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.876 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.850 หมื่นล้านดอลลาร์
เจพีมอร์แกนประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์สำหรับดัชนี S&P 500 ในปีนี้ ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์สำหรับดัชนี S&P 500 ในช่วงปลายปีนี้ สู่ระดับ 3,200 จุด จากเดิมที่ระดับ 3,000 จุด โดยพุ่งขึ้น 6.2% จากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ และถือเป็นการทะยานขึ้น 27% ในปีนี้
เจพีมอร์แกนยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจำนวน 6 แห่งจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และ 13 แห่งจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับภาคธุรกิจ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้น 12.9 จุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี สู่ระดับ +4.3 จุดในเดือนก.ค.
ก่อนหน้านี้ ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลง 26.4 จุดในเดือนมิ.ย. แตะระดับ -8.6 โดยปรับตัวลงสู่แดนลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 ซึ่งขณะนั้นดัชนีอยู่ที่ระดับ -9.2
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +1.0 ในเดือนก.ค.
การปรับตัวขึ้นของดัชนีภาคการผลิตได้รับแรงหนุนจากจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับภาคธุรกิจ
ดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 0 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
ดัชนีคาดการณ์ธุรกิจในอนาคต และดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ต่างดีดตัวขึ้นในเดือนก.ค. แม้ว่าดัชนีการจ้างงานปรับตัวลง