ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 27.13 จุด ขานรับผลประกอบการซิติกรุ๊ป,ข้อมูลเศรษฐกิจจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 16, 2019 06:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการของซิติกรุ๊ปที่สูงเกินคาด และนักลงทุนขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของจีน โดยตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในเขตเมืองในเดือนมิ.ย. ต่างก็ปรับตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2 มีอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 27 ปีก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,359.16 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด หรือ +0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,014.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.53 จุด หรือ +0.02% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,258.19 จุด เพิ่มขึ้น 14.04 จุด หรือ +0.17%

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P ปิดบวก โดยกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย บวก 0.37% และ 0.34% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.93%

ตลาดได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 9.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 8.5% และยอดค้าปลีกในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัว 8.4% เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้น 0.1% จากการขยายตัวในไตรมาสแรก

นอกจากนี้ การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนพุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 5.2%

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2562 ของจีนขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 27 ปี และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 6.4% โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างจีนและสหรัฐ

ซิติกรุ๊ปรายงานผลประกอบการ 1.95 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 2/2562 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.80 ดอลลาร์ แต่หุ้นซิติกรุ๊ปปิดลดลง 0.08%

หุ้นธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส, แบงก์ ออฟ อเมริกา และ โกลด์แมน แซคส์ จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลบ 1.22% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.78% และ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 1,10%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้น 12.9 จุด สู่ระดับ +4.3 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีอาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +1.0 ในเดือนก.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ