ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน, การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 21.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,324.52 จุด ลบ 11.11 จุด หรือ 0.04%
แบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 74 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 71 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี ธนาคารมีรายได้ 2.308 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.320 หมื่นล้านดอลลาร์
นายพอล โดโนฟริโอ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุเตือนว่า ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำจะกระทบต่อผลกำไรของทางธนาคาร
ทั้งนี้ นายโดโนฟริโอคาดการณ์ว่า แบงก์ ออฟ อเมริกาจะมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) เพิ่มขึ้นราว 2% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ แบงก์ ออฟ อเมริการะบุในเดือนเม.ย.ว่า ธนาคารจะมี NII เพิ่มขึ้นราว 3% ในปีนี้ เทียบกับระดับ 6% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นายโดโนฟริโอยังคาดการณ์ว่า หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และ 1 ครั้งในปีหน้า แบงก์ ออฟ อเมริกาก็จะมี NII เพิ่มขึ้นเพียง 1% ในปีนี้
ขณะนี้ มีบริษัทราว 7% ของดัชนี S&P 500 ที่ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ราว 85% ได้รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีผลประกอบการลดลง 3% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงของผลประกอบการรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ตลาดกังวลต่อการทำสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและจีนยังคงอยู่ห่างไกลจากการบรรลุข้อตกลงทางการค้า
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟดทั้ง 12 ภาคในวันนี้
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.253 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 จากระดับ 1.265 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.261 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.