ดาวโจนส์พุ่งกว่า 150 จุด ขานรับสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า,ผลประกอบการสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 24, 2019 01:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 150 จุดในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด

ณ เวลา 01.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,330.38 จุด บวก 158.48 จุด หรือ 0.58%

นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐจะเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน

นายคุดโลว์คาดหวังว่า จีนจะเริ่มต้นสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโดยรวม และเพื่อแสดงถึงไมตรีจิตของจีน

"เรายังไม่ได้รับคำยืนยันจากจีนในเรื่องนี้ แต่ผมคาดว่าเราจะได้รับข่าวดีต่อไป" เขากล่าว

ทางด้านหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน

การเจรจาครั้งนี้จะเป็นการพบปะกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงกันในระหว่างการประชุม G20 ว่า ทั้งสองฝ่ายจะสงบศึกการค้าชั่วคราว และจะจัดการเจรจาร่วมกันอีกครั้ง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ในเวที G20 เมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนก็ได้มีการหารือกันทางโทรศัพท์ 2 ครั้งในเดือนก.ค.

นายมนูชินเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เจรจาการค้าผ่านทางการสนทนาทางโทรศัพท์เป็นวันที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะที่เรื่องของหัวเว่ยไม่ใช่ข้อขัดแย้งหลักของการเจรจา แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีประเด็นที่ซับซ้อนที่ต้องเจรจากันอีกมาก

ราคาหุ้นบริษัทโคคา โคล่าทะยานขึ้นกว่า 4% ขานรับการเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ราคาหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.7% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส ส่วนราคาหุ้นบริษัทไบโอเจน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 5% ขานรับผลประกอบการที่ดีกว่าคาดเช่นกัน

ทั้งนี้ บริษัทจำนวนมากกว่า 25% ในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ แมคโดนัลด์ และโบอิ้ง รวมถึงบริษัทในกลุ่ม FANG ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล

ขณะนี้ บริษัทจำนวนมากกว่า 18% ของดัชนี S&P 500 ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ราว 79% ได้รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเป็นเวลา 2 ปี และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ครั้งใหม่

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 1.7% สู่ระดับ 5.27 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะลดลงเพียง 0.2% สู่ระดับ 5.33 ล้านยูนิต จากระดับ 5.36 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.

ยอดขายบ้านได้รับผลกระทบจากการที่ราคาบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง

เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ