ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับผลประกอบการของวอลมาร์ทที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 169 จุด หรือ 0.66% สู่ระดับ 25,624 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 800 จุดเมื่อคืนนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve หรือภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปี และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีที่หดตัวลงในไตรมาส 2
การดิ่งลงกว่า 800 จุดของดัชนีดาวโจนส์วานนี้ ถือเป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในปีนี้ และเป็นสถิติการทรุดตัวลงหนักที่สุดเป็นอันดับ 4 ของดัชนีดาวโจนส์
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในช่วงแรกวันนี้ หลังจากที่จีนยืนยันที่จะตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเตรียมขึ้นภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน
กระทรวงการคลังของจีนแถลงในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็นต่อการที่สหรัฐจะขึ้นภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุว่า มาตรการทางภาษีของสหรัฐเป็นการละเมิดข้อตกลงที่ผู้นำสหรัฐและจีนเห็นพ้องกันในการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
การแถลงของกระทรวงการคลังของจีนมีขึ้น แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจชะลอการขึ้นภาษีสินค้าจีนบางส่วนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของชาวสหรัฐในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.
ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับการชะลอการจัดเก็บภาษี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ คอนโซลวิดีโอเกม ของเล่น จอคอมพิวเตอร์ รองเท้า และเสื้อผ้า
นอกจากนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังได้ถอดสินค้าบางรายการออกจากบัญชีสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่
หุ้นของบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 6% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.27 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 1.3038 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3011 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.8% ในสหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.1%