ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุดจากคำสั่งขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 20, 2019 21:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ จากคำสั่งขายทำกำไร หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้

ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,029.36 จุด ลบ 106.43 จุด หรือ 0.41%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากข่าวจีนและเยอรมนีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวสหรัฐขยายเวลาในการอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีน สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐได้อีก 90 วัน

บริษัทโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ โคห์ลส์ คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.55 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 4.17 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.20 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยอดขายลดลง 2.9% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5%

โฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้และยอดขายต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ โฮม ดีโปท์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 3.17 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.08 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 3.084 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.099 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น 3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%

นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส แสดงความเห็นสอดคล้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูงเกินไป

"ผมเห็นด้วยกับท่านประธานาธิบดีเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ โดยทั่วไปผมคิดว่าเฟดคุมเข้มมากเกินไป แต่ผมคิดว่าเฟดอาจไม่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยถึง 1%" นายโคเชอร์ลาโคตาระบุ

นายโคเชอร์ลาโคตากล่าวว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ และถ้าเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี นายโคเชอร์ลาโคตากล่าวว่า ประธานาธิบดีไม่ควรมีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์เฟด ซึ่งจะสร้างความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของเฟด

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% และรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

"เศรษฐกิจของเรามีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่านายเจอโรม พาวเวล และเฟดจะขาดวิสัยทัศน์อย่างน่าวิตก ขณะที่พรรคเดโมแครตกำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งปีหน้า นี่เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก ส่วนค่าเงินดอลลาร์ของเราก็มีความแข็งแกร่งมากจนส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นของโลก" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้เคยแสดงความไม่พอใจที่นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวกำลังหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราภาษีเงินเดือนในความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง

วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า การหารือเรื่องภาษีเงินเดือนยังอยู่ในขั้นตอนแรก และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติการปรับลดภาษีเงินเดือนอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งระบุว่า นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะปรับลดภาษีมากขึ้นสำหรับชาวอเมริกัน แต่ยังไม่มีการพิจารณาปรับลดภาษีเงินเดือนในเวลานี้

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ทำการปรับลดภาษีเงินเดือนลงชั่วคราว เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งล่าสุด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลงในปี 2556

ตลาดจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์ระบุว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว เพื่อส่งสัญญาณถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ