ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 250 จุดในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในกลุ่มค้าปลีก
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,225.85 จุด บวก 263.41 จุด หรือ 1.01%
ราคาหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 16% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2
ทั้งนี้ ทาร์เก็ตระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.82 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.842 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.834 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9%
ส่วนราคาหุ้นบริษัทโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นคู่แข่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์ ทะยานขึ้นราว 10% หลังบริษัทเปิดเผยกำไร และ รายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2
ทั้งนี้ โลว์สเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 2.15 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.01 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.099 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.094 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.3% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.9%
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ขณะนี้ ตลาดการเงินเพิ่มคาดการณ์สู่ระดับเกือบ 100% ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสสูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. จากระดับ 84.6% ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้