ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 100 จุด นักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 30, 2019 20:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 20.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 140 จุด หรือ 0.53% สู่ระดับ 26,518 จุด

ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นเกือบ 4% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังจากที่จีนประกาศยกเว้นการเรียกเก็บภาษีซื้อรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางกระทรวงได้ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในรุ่น Model 3 Model S และ Model X

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในระดับต่างๆกันได้จัดการเจรจาการค้าเมื่อวานนี้ ขณะที่การเจรจาจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า จีนและสหรัฐกำลังหารือกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้าในเดือนก.ย.

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายควรสร้างภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อความคืบหน้าในการเจรจา โดยจีนจะสกัดกั้นไม่ให้สงครามการค้ากับสหรัฐทวีความรุนแรงมากขึ้น และยินดีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าอย่างสงบ

คำกล่าวของนายเกามีขึ้น ขณะที่ใกล้ถึงวันอาทิตย์นี้ (1 ก.ย.) ที่ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

การดีดตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายในภาคบริการ

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE ดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนมิ.ย.

ดัชนี PCE ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน และภาคบริการ แม้ว่าราคาอาหารปรับตัวลง

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานแตะระดับ 1.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% เช่นกันในเดือนมิ.ย.

แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุในรายงานว่า เครื่องมือวิเคราะห์ของทางบริษัทได้บ่งชี้ "สัญญาณซื้อ" สินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึง หุ้น เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปีนี้

รายงานระบุว่า ดัชนีชี้วัดภาวะกระทิงและหมีของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ได้ดิ่งลงสู่ระดับ 1.3 จากระดับ 2.4 และทำให้เกิด"สัญญาณซื้อ"สำหรับสินทรัพย์เสี่ยง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีที่อยู่ต่ำกับ 2 บ่งชี้ว่าตลาดตกอยู่ในภาวะหมีอย่างหนัก และทำให้เกิดสัญญาณซื้อ

แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า การที่ตลาดทรุดตัวลงในสัปดาห์นี้ เกิดจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากตราสารหนี้และหลักทรัพย์ของตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งการทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาดพันธบัตร

แบงก์ ออฟ อเมริการะบุว่า ข้อมูลจาก EPFR แสดงให้เห็นว่า มีกระแสเงินทุน 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่กองทุนพันธบัตร และ 1.9 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนทองในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ส.ค. ขณะที่เงินทุน 7.6 พันล้านดอลลาร์ไหลออกจากกองทุนหุ้น ซึ่งทำให้มีเม็ดเงินราว 2.04 แสนล้านดอลลาร์ไหลออกจากกองทุนหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ