ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นอย่างมาก และนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.73% ปิดที่ 379.48 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,480.48 จุด เพิ่มขึ้น 30.51 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,939.28 จุด เพิ่มขึ้น 100.40 จุด หรือ +0.85% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.18 จุด เพิ่มขึ้น 22.86 จุด หรือ +0.32%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น นำโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเยอรมนีที่ทะยานขึ้น หลังจากมีรายงานข่าวว่า แผนการระงับการปรับขึ้นค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเบอร์ลินนั้น อาจเข้มงวดน้อยกว่าที่มีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเห็นเชิงบวกของจีนในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งยังคงช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาสงครามการค้า โดยจีนเปิดเผยว่าการเจรจากับสหรัฐกำลังดำเนินต่อไป และจะไม่มีการตอบโต้ต่อการปรับขึ้นภาษีครั้งล่าสุด
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนยืนยันในวันศุกร์ว่า การเจรจายังดำเนินต่อไประหว่างคณะผู้เจรจาการค้าของทั้งสองฝ่าย
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของเยอรมีปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Deutsche Wohnen, หุ้น Vonovia SE และ หุ้น LEG Immobilien พุ่งขึ้น 4-9% ขณะที่หุ้นบริษัทตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนี พุ่ง 4.53% และหุ้นฟิเนียน เทคโนโลยีส์ พุ่ง 2.15%
หุ้นชไนเดอร์ อิเล็กทริกของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 1.93% และ หุ้นเปอโยต์ ปรับตัวขึ้น 1.83%
หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์ ของอังกฤษ พุ่ง 7.47% และ หุ้นริโอ ทินโต บวก 2.63%