ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับจีนดำเนินมาตรการกระตุ้นการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร ซึ่งได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นในตลาด แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวเกินคาด และเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.32% ปิดที่ 387.14 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,603.99 จุด เพิ่มขึ้น 10.63 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,191.73 จุด เพิ่มขึ้น 64.95 จุด หรือ +0.54% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,282.34 จุด เพิ่มขึ้น 11.17 จุด หรือ +0.15%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศเมื่อวานนี้ว่า PBOC จะลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ลง 0.50% นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
หุ้นที่อ่อนไหวต่อการค้า อาทิ กลุ่มเคมีภัณฑ์และกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวขึ้นมากที่สุดขานรับข่าวดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายลงในอังกฤษ, อิตาลี และฮ่องกง รวมถึงแนวโน้มการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนหน้าด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก โดยถูกกดดันจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง
ส่วนสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะเพิ่มขึ้น 0.1% ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของยูโรโซนนั้น อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และ หากเทียบเป็นรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ร่วงลง 4.2%
สำหรับหุ้นบวกในตลาดหุ้นฝรั่งเศสนำโดย หุ้นซาฟราน บวก 3.59%, หุ้นเปอโยต์ เพิ่มขึ้น 2.98% และ หุ้นเฮอร์เมส อินเตอร์เนชันแนล เพิ่มขึ้น 1.42% ส่วนหุ้นบวกในตลาดหุ้นเยอรมนี นำโดย หุ้นธิสเซ่นครุปป์และหุ้นอาดิดาสซึ่งพุ่งขึ้น 4.67% และ 1.49% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นบวกในตลาดหุ้นอังกฤษนำโดย หุ้นสเมอร์ฟิต แคปปา กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.41% และ หุ้นเบิร์คลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง บวก 2.76%