ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดันตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 10, 2019 20:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะถูกกดดันในคืนนี้ จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

ณ เวลา 19.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 24 จุด หรือ 0.09% สู่ระดับ 26,816 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้

ราคาหุ้นบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ร่วงลงเช่นกัน หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสู่ระดับ Ba1 หรือระดับ "ขยะ" เนื่องจากไม่มั่นใจว่าแผนการพลิกฟื้นธุรกิจของนายจิม แฮคเก็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟอร์ด จะสามารถกระตุ้นรายได้และกระแสเงินสดได้เร็วเพียงพอ

มูดี้ส์ระบุว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนและผลกำไรของฟอร์ดอยู่ในระดับต่ำกว่าคาดการณ์ และมีแนวโน้มที่จะยังคงอ่อนแอต่อไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้แสดงความไม่ไว้วางใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในระหว่างที่ปธน.สี จิ้นผิงพบปะกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเวลานั้น

แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.สี จิ้นผิงได้กล่าวต่อนายอาเบะนอกรอบการประชุม G20 ที่นครโอซากาว่า "ผมไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์พูดเกี่ยวกับการเจรจาการค้า" และแม้ว่านายอาเบะได้กล่าวต่อปธน.สี จิ้นผิงว่า ปธน.ทรัมป์ไว้วางใจปธน.สี จิ้นผิง แต่ปธน.สี จิ้นผิงก็ยังคงแสดงความไม่พอใจต่อปธน.ทรัมป์

ปธน.สี จิ้นผิงได้ยกตัวอย่างความไม่น่าเชื่อถือของปธน.ทรัมป์ โดยระบุว่า ถึงแม้ว่าปธน.ทรัมป์เห็นพ้องกับข้อเสนอของปธน.สี จิ้นผิงที่ให้มีการพูดคุยในประเด็นของบริษัทหัวเว่ยในการเจรจาการค้า แต่เมื่อการเจรจาการค้าเริ่มขึ้น ทางฝ่ายสหรัฐกลับบอกว่า เรื่องของหัวเว่ยไม่ถือเป็นประเด็นในการเจรจาการค้า เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงไม่อยู่ในวาระการเจรจา

ปธน.สี จิ้นผิงยังกล่าวว่า ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐมักวิพากษ์วิจารณ์จีนเกี่ยวกับการที่รัฐบาลใช้มาตรการอุดหนุนบริษัทของรัฐ แต่สหรัฐเองก็ให้การอุดหนุนบริษัทโบอิ้งเช่นกัน

ทางด้านบริษัทแอปเปิล อิงค์เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้ที่สตีฟ จ็อบส์ เธียเตอร์ โดยงานดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเวลา 10.00 น.ตามเวลาชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ หรือตรงกับ 24.00 น.ตามเวลาไทย

สื่อคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone ใหม่ 3 รุ่นในงานดังกล่าว โดยเป็น iPhone รุ่น Pro 2 รุ่น ซึ่งจะมาแทนที่ iPhone XS และ iPhone XS MAX โดยจะใช้ชื่อว่า iPhone 11 และ iPhone 11 MAX ตามลำดับ ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะมาแทนที่ iPhone XR โดยจะใช้ชื่อว่า iPhone 11R

iPhone รุ่น Pro ทั้ง 2 รุ่น จะมีหน้าจอ 5.8 นิ้ว และ 6.1 นิ้ว โดยจะมีราคาขั้นต่ำ 999 ดอลลาร์ และ 1,099 ดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องหลัง โดยจะมีเซนเซอร์สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอในมุมกว้าง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับแอปเปิล

นอกจากนี้ แอปเปิลจะเพิ่มกล้องหลังตัวที่ 2 ให้กับ iPhone ที่จะมาแทนที่ iPhone XR ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายรูป โดยสามารถซูมภาพโดยไม่ทำให้คุณภาพลดลง

iPhone ทั้ง 3 รุ่นจะมีเซนเซอร์สำหรับฟีเจอร์ Face ID ทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกเครื่องได้ แม้มีการวางราบบนโต๊ะ

อย่างไรก็ดี iPhone ใหม่ล่าสุดทั้ง 3 รุ่นในวันพรุ่งนี้จะยังไม่รองรับระบบ 5G เนื่องจากแอปเปิลมีแผนเปิดตัว iPhone 5G ในปีหน้า

ขณะเดียวกัน แอปเปิลจะยังไม่เปิดตัว MacBook รุ่นใหม่ขนาด 16 นิ้ว และ iPad Proที่มีการอัพเกรด จนกว่าจะถึงวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งในวันดังกล่าว แอปเปิลจะเปิดตัว Mac Mini รุ่นใหม่ และ MacBook Air รวมทั้ง iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ