ดาวโจนส์ปรับตัวแคบ นักลงทุนจับตาการเมืองสหรัฐ,เจรจาการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 25, 2019 21:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาปัจจัยการเมืองสหรัฐ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,834.27 จุด บวก 26.50 จุด หรือ 0.1%

ราคาหุ้นไนกี้ อิงค์ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาดในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท

ณ เวลา 20.39 น. ราคาหุ้นไนกี้พุ่งขึ้น 5.49% แตะระดับ 91.96 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ไนกี้ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 86 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 70 เซนต์/หุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.066 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.044 หมื่นล้านดอลลาร์

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศการเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนบุตรชายของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

การดำเนินการของนางเพโลซีมีขึ้น หลังมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้กดดันนายเซเลนสกีเพื่อให้มีการสอบสวนนายไบเดน และนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขา นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้สั่งระงับการให้งบช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนจำนวนราว 400 ล้านดอลลาร์ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ติดต่อนายเซเลนสกี ซึ่งมีการมองกันว่า ปธน.ทรัมป์กำลังใช้งบช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐเพื่อกดดันนายเซเลนสกีให้มีการสอบสวนนายไบเดน และบุตรชาย

ทั้งนี้ นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย

นักลงทุนยังกังวลต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าววิพากษ์วิจารณ์จีนในเวทีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติวานนี้ว่า จีนมีการดำเนินการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และปธน.ทรัมป์จะไม่ยอมรับข้อตกลงการค้าที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียเปรียบ

"จีนไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำการปฏิรูปตามที่ได้ให้สัญญาไว้ แต่ยังมีรูปแบบเศรษฐกิจที่อิงบนการสร้างอุปสรรคขวางกั้นการเข้าสู่ตลาด ขณะที่รัฐบาลให้การอุดหนุนจำนวนมาก มีการปั่นค่าเงิน มีการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี รวมทั้งขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และขโมยความลับทางการค้าจำนวนมาก" ปธน.ทรัมป์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ