ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้
ณ เวลา 19.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 61 จุด หรือ 0.23% สู่ระดับ 26,119 จุด
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.7% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงเมื่อวันพุธ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐที่ซบเซา
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าระดับ 157,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ถือเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ส่งผลให้ตัวเลขการจ้างงานเฉลี่ยของภาคเอกชนในปีนี้อยู่ที่ระดับ 145,000 ตำแหน่ง ลดลงจากระดับ 214,000 ตำแหน่งในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อวานนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการของสหรัฐที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 86.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ต.ค. และมีแนวโน้ม 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
หากเฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของเฟดในปีนี้ รวมทั้งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงิน 3 ครั้งติดต่อกัน
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้