ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 313.98 จุด วิตกสหรัฐแบนวีซ่าจนท.จีนกระทบเจรจาการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 9, 2019 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้อาจประสบความล้มเหลว หลังจากสหรัฐประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียง โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเริ่มขยายงบดุลบัญชี ผ่านการซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,164.04 จุด ร่วงลง 313.98 จุด หรือ -1.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,893.06 จุด ลดลง 45.73 จุด ลดลง -1.56% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,823.78 จุด ลดลง 132.52 จุด หรือ -1.67%

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ข่มเหงและจับกุมชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า "มาตรการที่เข้มงวดนี้จะบังคับใช้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เชื่อว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบ หรือรู้เห็น ในการกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือทำร้ายชาวอุยกูร์ ชาวคาซัคสถาน หรือบรรดาชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียงของจีน นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้ถึงสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นด้วย"

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียง ขณะที่ทางการจีนประกาศว่าจะตอบโต้สหรัฐในเรื่องนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน

นักลงทุนกังวลว่า ความตึงเครียดเช่นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า จีนได้ลดระดับความสำคัญของการเจรจาการค้ากับสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานจากสื่ออื่นๆที่ว่า เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของจีนจะเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนด โดยจะออกจากกรุงวอชิงตันในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าริบหรี่ลง

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้า โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.2% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 2.6% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.4% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.5% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 2.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2.01%

หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวลง 0.7% หลังจากสหภาพของสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ได้ยื่นฟ้องบริษัทโบอิ้ง โดยระบุว่า โบอิ้งเร่งนำเครื่องบิน 737 Max เข้าสู่ตลาดและบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม โบอิ้งได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวในเวลาต่อมา

หุ้นออราเคิล โค ร่วงลง 1.4% หลังจากบริษัทประกาศแผนการจ้างพนักงานใหม่ 2,000 ตำแหน่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจคลาวด์ และรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้นกับบรรดาบริษัทคู่แข่ง ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์

หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ หลังสื่อรายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังหารือเกี่ยวกับการปิดกั้นมิให้กองทุนบำนาญของรัฐบาลสหรัฐเข้าลงทุนในจีน โดยหุ้นอาลีบาบา ร่วงลง 3.8% หุ้น JD.com ดิ่งลง 3.88% หุ้นไป่ตู้ ร่วงลง 1.9%

หุ้นโดมิโนส์ พิซซา พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากผู้บริหารของบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี หุ้นโดมิโนส์ พิซซา ได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.05 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเริ่มขยายงบดุลบัญชี ผ่านการซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลสหรัฐ พร้อมกับส่งสัญญาณว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างเหมาะสม เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.3% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ