ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 22 เดือน โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ออกมาดีเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.16% ปิดที่ 398.01 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,722.15 จุด เพิ่มขึ้น 37.82 จุด หรือ +0.67% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,894.51 จุด เพิ่มขึ้น 22.41 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,324.47 จุด ลดลง 3.78 จุด หรือ -0.05%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุน หลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ, นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน หารือกันทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะคลี่คลายสงครามการค้าที่ดำเนินมาเกือบ 16 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีทรงตัวที่ระดับ 94.6 ในเดือนต.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 94.5
การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปมีส่วนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นอีเลคโทรลักซ์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.23% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 ดีกว่าคาด
หุ้นเคอริ่งของฝรั่งเศส พุ่ง 8.74% หลังรายงานยอดขายเพิ่มขึ้น 11.6% ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้ายี่ห้อกุชชี่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนหุ้นเอสซิทีของสวีเดนปรับตัวขึ้น 5.87% หลังรายงานยอดขายเพิ่มขึ้น 5.9% และ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.6% ในไตรมาส 3/2562