ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค)
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,152.80 จุด บวก 194.74 จุด หรือ 0.72%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า เขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนกำหนด แต่เขาไม่ได้ระบุกำหนดเวลาในการลงนามที่ชัดเจน
"เรามีแนวโน้มที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนกำหนด ซึ่งจะมีเนื้อหาจำนวนมาก" ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เนื้อหาส่วนใหญ่ในข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับภาคเกษตร และภาคธนาคาร
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกำลังเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกตามที่ปธน.ทรัมป์ประกาศในวันที่ 11 ต.ค. ขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาคาดหวังว่าจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่จะมีขึ้นที่ประเทศชิลีในวันที่ 16-17 พ.ย.
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ตามกำหนดเดิมนั้น เขาและปธน.สี จิ้นผิงจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมเอเปคที่ชิลี อย่างไรก็ดี ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในชิลีอาจเป็นอุปสรรคต่อการลงนามดังกล่าว
นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศผลประกอบการที่สดใส และการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
บริษัทจำนวน 202 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยจำนวน 78% ได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ราคาหุ้น Spotify Technology SA ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการมิวสิค สตรีมมิ่ง ซึ่งมีสมาชิกมากที่สุดในโลก พุ่งขึ้นในวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 และมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ทั้งนี้ Spotify ระบุว่า บริษัทมีจำนวนสมาชิกในระดับ Premium หรือสมาชิกที่มีการจ่ายค่าบริการ ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 113 ล้านคน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 112.9 ล้านคน
Spotify เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ 1.73 พันล้านยูโร สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.72 พันล้านยูโร
นอกจากนี้ บริษัทมีกำไร 241 ล้านยูโร สูงกว่าระดับ 43 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 94.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้