ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ก่อนรู้ผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้
ณ เวลา 21.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,080.21 จุด บวก 8.79 จุด หรือ 0.03%
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสสูงถึง 98.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการ และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
บริษัทจำนวนมากในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยจำนวน 74% ได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศชิลีในเดือนหน้า
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การที่ผู้นำทั้งสองไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าในเดือนหน้า มีสาเหตุจากการที่ทั้งสองฝ่ายยังคงต้องใช้เวลาในการเจรจามากขึ้น ขณะที่สหรัฐต้องการให้จีนให้คำมั่นสัญญาในการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐมากขึ้น
รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์สวนทางกับทำเนียบขาวที่ได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนอกรอบการประชุมเอเปคซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ย.
บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยตัวเลขกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ GE ระบุว่า บริษัทมีกำไร 15 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 11 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.336 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 2.293 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทแอปเปิล อิงค์ในวันนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ยอดขายสมาร์ทโฟนในตระกูล iPhone 11
ทั้งนี้ แอปเปิลจะเปิดเผยผลประกอบการประจำเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยจะรวมถึงยอดขายของ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ซึ่งมีการเปิดตัวในวันที่ 20 ก.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แอปเปิลจะมีรายได้ 6.29 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. และมีกำไร 2.84 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะนี้แอปเปิลนับเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยมีมูลค่ามากกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทไมโครซอฟท์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2562 ที่ระดับ 1.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐ
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เนื่องจากการลดลงของการลงทุนในภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 2 และ 3.1% ในไตรมาสแรก
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ADP ปรับลดตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนก.ย.สู่ระดับ 93,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 135,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตลดลง 13,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 85,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว โดยได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) จำนวน 46,000 คน
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐมองว่าพนักงานที่ทำการประท้วงโดยไม่ได้รับเงินเดือนจะถูกนับเป็นผู้ว่างงาน ส่งผลให้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะลดลงอย่างน้อย 46,000 ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี