ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยดีดตัวกลับขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 4 ปี เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.38% ปิดที่ 406.90 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,919.75 จุด เพิ่มขึ้น 25.94 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,283.51 จุด เพิ่มขึ้น 85.14 จุด หรือ +0.65% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,365.44 จุด เพิ่มขึ้น 36.90 จุด หรือ +0.50%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับรายงานจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดีดตัวสู่ระดับ -2.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ -22.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -13.0
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -24.7 จากระดับ -25.3 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการที่สหรัฐไม่มีแนวโน้มที่จะเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปช่วยหนุนตลาดด้วย
หุ้นกลุ่มเทเลคอมปรับตัวขึ้นนำตลาด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโวดาโฟน ซึ่งพุ่งขึ้น 3.09% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี
หุ้น Iliad ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของฝรั่งเศส พุ่ง 20.19% หลังนายซาเวียร์ นีล ผู้ก่อตั้งบริษัทประกาศแผนซื้อคืนหุ้น 1.4 พันล้านยูโร (1.5 พันล้านดอลลาร์)
หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นไดอะล็อก เซมิคอนดักเตอร์ พุ่งขึ้น 6.78% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการร์ผลกำไรและผลประกอบการ, หุ้นอินฟิเนียน พุ่งขึ้น 5.60% และหุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ บวก 2.13%