ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) และบวกขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ขานรับความเห็นเชิงบวกของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.40% ปิดที่ 406.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,939.27 จุด เพิ่มขึ้น 38.20 จุด หรือ +0.65%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,241.75 จุด เพิ่มขึ้น 61.52 จุด หรือ +0.47% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.94 จุด เพิ่มขึ้น 10.18 จุด หรือ +0.14%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ทะลุระดับ 28,000 ได้เป็นครั้งแรกหลังจากขานรับรายงานข่าวที่ว่า นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การเจรจาทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อประเด็นการค้า ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภคและเทเลคอมปรับตัวลง
หุ้นโฟลคสวาเก้น บวก 1.97% และหุ้นเมอร์ค เพิ่มขึ้น 1.74%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปในยุโรปปรับตัวขึ้นด้วย โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทแอพพลายด์ แมทีเรียลส์ของสหรัฐคาดการณ์ในเชิงบวกเกี่ยวกับธุรกิจชิปในไตรมาสแรกของปี 2563
หุ้นอินฟิเนียน บวก 1.09%, หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 1.29% และ หุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง ปรับตัวขึ้น 2.09%