ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งในแดนบวกและลบ ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,352.91 จุด ลดลง 57.28 จุด, -0.24% ขณะที่ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,522.89 จุด เพิ่มขึ้น 86.27 จุด, +0.33% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,564.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด, +0.15%
สื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เวลามากขึ้นในการเจรจาทำข้อตกลงการค้าชั่วคราว ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังคงยืนยันว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลง แม้ต้องเลื่อนกำหนดเส้นตายหลายครั้งแล้วก็ตาม
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนซึ่งยังคงติดต่อกันเกือบทุกวันนั้น ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีนำเข้าที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แต่แทนที่จะยกเลิกภาษีที่มีอยู่ กลับเป็นการให้ความสำคัญกับการปรับลดอัตราภาษีที่มีผลบังคับใช้แล้ว
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากภาคค้าส่ง ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น และการปรับขึ้นภาษีการบริโภคยังคงส่งผลกระทบต่อราคาค้าส่ง
เจ้าหน้าที่จาก BOJ ระบุว่า ราคาสินค้าที่มีการซื้อขายระหว่างบริษัทกับบริษัท ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ย. ขณะที่ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มผ่อนคลายลง
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้