ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 100.51 จุด ทำนิวไฮ รับข่าวจีน-สหรัฐบรรลุดีลการค้า,ข้อมูลศก.จีนสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 17, 2019 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนพ.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,235.89 จุด เพิ่มขึ้น 100.51 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,191.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.65 จุด หรือ +0.71% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,814.23 จุด เพิ่มขึ้น 79.35 จุด หรือ +0.91%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน และสหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐและจีนจะเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟสสองโดยทันที แทนที่จะรอจนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า

ทางด้านจีนได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเช่นกันว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก โดยจีนระบุว่า สหรัฐจะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่จีนจะเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าด้านการค้าของสหรัฐและจีน โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 3.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.6% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดขึ้น 1.03% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.47% หุ้น Nvidia บวก 0.52%

หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพดีดตัวขึ้น หลังจากสื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐเตรียมยกเลิกภาษีอุปกรณ์ทางการแพทย์และค่าธรรมเนียมประกันสุขภาพ โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นฮูมานา อิงค์ พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นซิกนา คอร์ป เพิ่มขึ้น 2.8% หุ้นแอนเธม พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นแอมเจน พุ่งขึ้น 2.73%

หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ พุ่งขึ้น 2.25% หลังจากบริษัทได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในการส่งออกสัตว์ปีกของสหรัฐไปยังจีนจากโรงงานแปรรูปในสหรัฐทั้ง 36 แห่ง และบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มรับคำสั่งซื้อในช่วงต้นปีหน้า

หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 5.5% หลังจากมีรายงานข่าวว่า อูเบอร์กำลังเจรจาเพื่อขายธุรกิจการจัดส่งอาหารในประเทศอินเดียให้กับบริษัทคู่แข่งในท้องถิ่น

หุ้นอินเทล ขยับลง 0.16% หลังจากอินเทลประกาศซื้อกิจการบริษัทฮาบานา แล็ปส์ ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของอิสราเอล ด้วยวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ โดยหลังการควบรวมกิจการ ฮาบานาจะยังคงเป็นหน่วยธุรกิจอิสระ และนำโดยทีมบริหารชุดเดิม

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 4.3% หลังจากมีข่าวว่า โบอิ้งอาจประกาศแผนการระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX ภายหลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ระบุว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะให้ใบอนุญาตการบินแก่เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จนกว่าจะถึงปีหน้า

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.6%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.2 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 52.0 ในเดือนพ.ย

ทางด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 76 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2542

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ