ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับการที่ธนาคารกลางสวีเดนลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และธนาคารกลางอังกฤษลงมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่า ปธน.ทรัมป์จะรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในขั้นตอนของวุฒิสภา
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.17% ปิดที่ 415.07 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,972.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.68 จุด หรือ +0.21% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,573.82 จุด เพิ่มขึ้น 33.07 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,211.96 จุด ลดลง 10.20 จุด หรือ -0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นขานรับธนาคารกลางสวีเดนและธนาคารกลางอังกฤษลงมติกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยธนาคารกลางสวีเดนหรือริกส์แบงก์ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สู่ระดับ 0% จากระดับ -0.25% ตามการคาดการณ์ของตลาด
ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 7-2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) 7 รายลงมติให้ BoE คงอัตราดอกเบี้ย แต่อีก 2 รายลงมติให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติถอดถอนปธน.ทรัมป์ด้วยข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบและขัดขวางการสอบสวนของสภาคองเกรส เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าปธน.ทรัมป์จะรอดพ้นจากการลงมติถอดถอนในขั้นตอนของวุฒิสภาในเดือนหน้า เนื่องจากพรรครีพับลิกันของปธน.ทรัมป์ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
หุ้นดอยซ์ แบงก์และหุ้นไบเออร์สดอร์ฟของเยอรมนีปิดบวก 1.44% และ 1.25% ตามลำดับ, หุ้นแดสซอลท์ ซิสเทมส์และหุ้นลอรีอัลของฝรั่งเศสบวก 1.84% และ 1.17% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์และหุ้นแอสตราเซเนกา ปรับตัวขึ้น 2.33% และ 2.06% ตามลำดับ