ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์
ณ เวลา 20.25 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 27 จุด หรือ 0.09% สู่ระดับ 28,637 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 0.08% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีน และความคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงมีการซื้อขายตามปกติในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะปิดทำการในวันพุธเนื่องในวันปีใหม่
วันนี้นับเป็นวันที่ 4 ของช่วงซานต้า แรลลี่ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลาดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2493 หรือในช่วงเวลาเกือบ 70 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นายเอ็ดเวิร์ด ยาร์เดนี ประธานบริษัทวิจัยยาร์เดนี กล่าวเตือนว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับฐานครั้งใหญ่ในปีหน้า หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในปีนี้
"ผมกังวลว่าตลาดหุ้นจะทรุดตัวลง ผมเคยคาดการณ์ว่าดัชนี S&P 500 จะแตะระดับ 3,500 จุดภายในปลายปีหน้า แต่ตอนนี้ดัชนีกำลังเข้าใกล้ระดับดังกล่าวเร็วกว่าที่ผมคาดไว้ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีการปรับฐาน 10-20%" นายยาร์เดนีกล่าวนายยาร์เดนีระบุว่า เขาเชื่อว่าตลาดหุ้นจะชะลอตัวลง เนื่องจากขณะนี้ดัชนีกำลังพุ่งแตะระดับสูงอย่างมาก ซึ่งเขามีความกังวลในเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา
นายยาร์เดนีเตือนว่า นี่ไม่ใช่ตลาดหุ้นที่มีราคาถูก ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่แข็งแกร่ง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เป็นเรื่องยากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นอย่างราบรื่น
ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 28% ในปีนี้ ถึงแม้ตลาดหุ้นประสบภาวะผันผวนจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ดัชนี S&P 500 ก็สามารถพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 3,200 จุดในช่วงกลางเดือนนี้