ดาวโจนส์บวกกว่า 100 จุด ฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังทรุดหนักวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2020 22:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นจากคำสั่งซื้อเก็งกำไรในวันนี้ หลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ณ เวลา 22.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,654.95 จุด บวก 119.15 จุด หรือ 0.42%

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 450 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว

นายสก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า เขามีความวิตกกังวลว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน อาจมีจำนวนมากกว่าตัวเลขทางการของจีน

"ผมคิดว่าเราประเมินตัวเลขต่ำเกินไปถึงหลายหมื่นคน" นายก็อตต์ลิเอ็บกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 106 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 4,515 ราย

นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ขณะนี้ บริษัทจำนวน 67% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4 มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ในการคงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนธ.ค. หลังจากดิ่งลง 3.1% ในเดือนพ.ย.

การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนธ.ค. ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของภาคขนส่ง

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.

ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนต.ค.

ดัชนีราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากการขาดแคลนสต็อกบ้านในตลาด, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองในระดับต่ำ ขณะที่อุปสงค์อยู่ในระดับสูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ