ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในช่วงแรก แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,296.06 จุด บวก 5.21 จุด หรือ 0.02%
ดาวโจนส์ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า จีนจะปรับลดภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จีนจะปรับลดภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐสู่ระดับ 2.5% จากระดับ 5% ส่วนภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจะลดลงสู่ระดับ 27.5% จากระดับ 30% ขณะที่ภาษีนำเข้าเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ จะปรับลดลงสู่ระดับ 30% จากระดับ 35% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.
การปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ดัชนียังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของนักวิจัยจากจีนและอังกฤษในการคิดค้นยาและวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และการที่ธนาคารกลางจีนกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (LPR) ในวันที่ 20 ก.พ. และจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โอ้อวดในชัยชนะที่เขาได้รับ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติคัดค้านการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
"นี่คือชัยชนะต่อแผนการหลอกลวงจากคดีถอดถอน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอเย้ยว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐตลอดกาล
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์มีกำหนดออกแถลงการณ์จากทำเนียบขาวในวันนี้เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 24.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อกล่าวต่อชาวอเมริกันเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของเขา หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐตัดสินให้เขาพ้นผิดจากข้อกล่าวหาในคดีถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี นายริชาร์ด บลูเมนทัล วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า "การที่วุฒิสภาลงมติให้เขาไม่มีความผิด ไม่ได้ถือเป็นชัยชนะอะไร ไม่ได้เป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา มันไม่มีความหมายในแง่ที่ว่าเขาถูกหรือผิด เพราะชาวอเมริกันจะเป็นคนตัดสินเองจากสิ่งที่พวกเขาได้เห็น"
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 202,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 211,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว