ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และตลาดยังถูกกดดันจากการที่บริษัทหลายแห่งในยุโรปคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในเชิงลบ อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ชะลอตัวลงด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.13% ปิดที่ 430.52 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,069.35 จุด ลดลง 23.78 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,744.21 จุด ลดลง 1.22 จุด หรือ -0.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,409.13 จุด ลดลง 42.90 จุด หรือ -0.58%
ตลาดปรับตัวลงโดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบริษัทต่างๆ ในยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการ
หุ้นแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นหุ้นเวชภัณฑ์ของอังกฤษร่วงลง 4.27% หลังบริษัทคาดว่าการขยายตัวของรายได้ในปีนี้อาจลดลง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
หุ้นหลายตัวในตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง หลังบาร์เคลย์สปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภคลง โดยระบุว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบริโภคในจีน
หุ้นลอรีอัล และหุ้นเพอร์นอด ริคาร์ดของฝรั่งเศส ลดลง 1.22% และ 0.45% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ชะลอตัวลง โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน มีการขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาส 4/2562 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากที่มีการเติบโต 0.3% ในไตรมาส 3/2562 และเมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.9% ในไตรมาส 4/2562 หลังจากที่มีการเติบโต 1.2% ในไตรมาส 3/2562
หุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส ลดลง 0.9% หลังเปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 ขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
หุ้นไวร์การ์ดของเยอรมนี ร่วง 3.47% แม้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2562 แข็งแกร่งตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก็ตาม
หุ้นกลุ่มส่งออกของอังกฤษปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น หลังคาดว่ารมว.คลังคนใหม่ของอังกฤษจะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นในเดือนหน้า