ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ลดลง และมีความหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ช่วยหนุนตลาดให้ฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านห่วงโซ่อุปทานและอุปสงค์ทั่วโลกที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.83% ปิดที่ 433.90 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,111.24 จุด เพิ่มขึ้น 54.42 จุด หรือ +0.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,789.00 จุด เพิ่มขึ้น 107.81 จุด หรือ +0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,457.02 จุด เพิ่มขึ้น 75.01 จุด หรือ +1.02%
ตลาดปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ลดน้อยลงในจีนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันแล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความหวังว่า จีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อช่วยควบคุมความเสียหายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นของบริษัทที่คาดว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ปรับตัวขึ้นตามกัน โดยหุ้นอาดิดาส บวก 2.54% และหุ้นพูม่า พุ่งขึ้น 11.33%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นหลุยส์วิตตอง บวก 2.49% และหุ้นเคอริ่ง เจ้าของแบรนด์กุชชี่ เพิ่มขึ้น 3.04%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิปดีดตัวขึ้น หลังร่วงลงก่อนหน้านี้จากการที่แอปเปิล อิงค์ออกมาเตือนเรื่องรายได้ อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยหุ้นไดอาล็อก เซมิคอนดักเตอร์ บวก 3.80% และหุ้นเอสทีไมโครอิเล็คทรอนิค เพิ่มขึ้น 4.60%