ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,022.82 จุด บวก 62.02 จุด หรือ 0.18%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การลุกลามอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
การทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อคืนนี้ ทำให้ดาวโจนส์ทำสถิติร่วงลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561 และส่งผลให้ดาวโจนส์ลบช่วงบวกทั้งหมดที่ทำไว้ตั้งแต่ต้นปีนี้
อย่างไรก็ดี ข้อมูลทางสถิติระบุว่า หากวอลล์สตรีททรุดหนักในวันจันทร์ ตลาดก็มักจะดีดตัวขึ้นในวันอังคาร
ทั้งนี้ บริษัทบีสโปค อินเวสเมนท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า หากนับย้อนหลังไปถึงเดือนมี.ค.2552 เมื่อวานนี้นับเป็นวันจันทร์ครั้งที่ 19 ที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลงมากกว่า 2% ซึ่งจากการดูข้อมูลในอดีตจะพบว่า หากตลาดหุ้นทรุดตัวลงในวันจันทร์ ดัชนี S&P 500 จะกลับมาพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.02% ในวันอังคาร
นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลในอดีต พบว่า 17 จาก 18 ครั้งที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 จะดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 หลังจากตลาดทรุดตัวลงในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยจะพุ่งขึ้นเฉลี่ย 3.16% และจะทะยานขึ้นในเดือนต่อไปราว 6.08%
ขณะเดียวกัน บีสโปคพบว่า หากดัชนี S&P 500 ดิ่งลงมากกว่า 1% ในวันศุกร์ และทรุดตัวมากกว่า 2% ในวันจันทร์ ดัชนีก็จะพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.5% ในวันอังคาร และจะดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 3.98% ในสัปดาห์ต่อไป และจะทะยานขึ้นในเดือนต่อไป 6.47%
ทางด้านสหรัฐเตรียมทำการทดลอง remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัท Gilead Sciences Inc ผู้ผลิตยาต้านเอดส์รายใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยเนบราสกาจะเป็นผู้ทดสอบยา remdesivir ร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ โดยจะทดลองยา remdesivir ในสถานที่ 50 แห่งทั่วโลก
นายแพทย์บรู๊ซ เอลเวิร์ด ซึ่งเป็นแพทย์ประจำองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า remdesivir เป็นยาตัวเดียวในขณะนี้ที่มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากที่เคยมีการทดสอบกับผู้ป่วย 2 รายในเมืองอู่ฮั่นของจีน
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผุ้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน remdesivir ยังเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการต้านโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรค SARS และ MERS