ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกพุ่งขึ้น 200 จุด หลังร่วงลงกว่า 300 จุดก่อนหน้านี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 21.25 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 200 จุด หรือ 0.79% สู่ระดับ 25,564 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงมากกว่า 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการทรุดตัวรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ส่งผลให้ดาวโจนส์เข้าสู่โซนปรับฐาน โดยร่วงลงมากกว่า 10% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนก.พ. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเฟด จะใช้มาตรการป้องกันการทรุดตัวของเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฟดจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ และจะใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อหนุนเศรษฐกิจ
การแสดงความเห็นของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนในตลาดการเงินมองว่า ประธานเฟดอาจส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.
นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสาธารณสุขสหรัฐยืนยันการพบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 2 ในสหรัฐ โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายวัย 70 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอเวอร์กรีนเฮลธ์ ในรัฐวอชิงตัน
ส่วนผู้เสียชีวิตรายแรกที่มีการยืนยันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นชายอายุประมาณ 50 ปีในรัฐวอชิงตัน หลังจากตรวจพบอาการเมื่อวันศุกร์