ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด ผิดหวังแถลงการณ์ G7 ขณะตื่นข่าวปิดโรงเรียนในนิวยอร์ก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 3, 2020 21:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อแถลงการณ์ของกลุ่ม G7 ที่ไร้มาตรการชัดเจนในการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่า โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กประกาศปิดโรงเรียนในวันนี้ หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในชุมชนดังกล่าว

ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,497.05 จุด ลบ 206.27 จุด หรือ 0.77%

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G7 จัดประชุมทางไกลในวันนี้เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของ G7 ไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว

"เมื่อพิจารณาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เราขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เครื่องมือด้านนโยบายทุกอย่างที่เหมาะสมในการบรรลุการขยายตัวที่ยั่งยืนและแข็งแกร่ง และป้องกันความเสี่ยงในช่วงขาลง" แถลงการณ์ระบุ

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า รัฐมนตรีคลังของ G7 พร้อมที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังที่เหมาะสมเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางของ G7 จะสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพของราคา และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งรักษาความยืดหยุ่นของระบบการเงิน

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ระบุว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ได้ยืนยันถึงความพร้อมในการใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในการช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นผู้นำในการจัดประชุมทางไกลของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G7 ในวันนี้

สื่อรายงานว่า โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กประกาศปิดโรงเรียนในวันนี้ หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในชุมชนดังกล่าว

ทั้งนี้ SAR Academy and SAR High School ซึ่งเป็นโรงเรียนของชาวยิวนิกายออร์โธด็อกซ์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การปิดโรงเรียนในวันนี้ ถือเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า ตามระเบียบปฏิบัติของสำนักงานสาธารณสุขของนิวยอร์ก

โรงเรียนดังกล่าวตั้งอยู่ในย่านบรองซ์ของนิวยอร์ก

ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 91 ราย และมีผู้เสียชีวิต 6 ราย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ กดดันให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

"ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ย และระบุว่ามีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อชดเชยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนประเทศอื่นๆก็ดำเนินการเช่นเดียวกัน ซึ่งบางประเทศอาจทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เฟดกลับทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่าประเทศอื่น ทั้งๆที่เราควรจ่ายต่ำกว่า ส่งผลให้การส่งออกของเรามีปัญหา และทำให้สหรัฐเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการแข่งขัน ในขณะที่เฟดควรผ่อนคลายนโยบาย และปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ กดดันให้นายพาวเวลปรับลดอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับธนาคารกลางแห่งอื่นๆ

"นายเจอโรม พาวเวล และเฟด ยังคงดำเนินการล่าช้าเหมือนเดิม ขณะที่เยอรมนีและประเทศอื่นๆ ต่างกำลังอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางแห่งอื่นๆต่างดำเนินการในเชิงรุกมากกว่าเฟด ขณะที่สหรัฐควรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้เรากำลังเสียเปรียบ เราควรเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตาม" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ด้านนายพาวเวลกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฟดจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ และจะใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อหนุนเศรษฐกิจ

การแสดงความเห็นของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนในตลาดการเงินมองว่า ประธานเฟดกำลังส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ