ดาวโจนส์ทรุดกว่า 1,200 จุด หลัง WHO ประกาศ"โควิด-19"เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 12, 2020 00:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 1,200 จุด หรือเกือบ 5% ในวันนี้ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ท่ามกลางความไม่มั่นใจของนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ณ เวลา 00.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,786.04 จุด ลบ 1,232.12 จุด หรือ 4.92%

ทั้งนี้ WHO ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังมีการลุกลามไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ

"ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นถึง 13 เท่า และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ข้างหน้า เราคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นอีก" นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าว

นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังได้กล่าวตำหนิผู้นำของหลายประเทศที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดและรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

อย่างไรก็ดี นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนและเกาหลีใต้ได้ลดลงอย่างมาก

นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ไวรัสในตระกูลโคโรนาได้ทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก

ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 121,564 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตมีจำนวนอย่างน้อย 4,373 ราย

ส่วนนอกประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 32,778 รายในอย่างน้อย 109 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากเพียง 4 รายใน 3 ประเทศในวันที่ 21 ม.ค.

อิตาลีมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด รองจากจีน โดยมีจำนวน 10,149 ราย ตามมาด้วยอิหร่าน 9,000 ราย และเกาหลีใต้ 7,775 ราย ส่วนในสหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,050 ราย ในอย่างน้อย 36 รัฐ

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประชุมกับแกนนำของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินเดือนสู่ระดับ 0% จนถึงสิ้นปีนี้ แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลขาดรายได้ในการสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพ และสวัสดิการสังคมของชาวอเมริกัน

นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังพิจารณาแผนการให้ความช่วยเหลือต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมันในขณะนี้ ท่ามกลางการทำสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย

อย่างไรก็ดี การหารือระหว่างปธน.ทรัมป์และแกนนำของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ได้สิ้นสุดลงโดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกันในเดือนม.ค.

ดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร แม้ว่าราคาพลังงานร่วงลง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะทรงตัวในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี

หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนม.ค.

ดัชนี CPI พื้นฐานได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของราคาเสื้อผ้า, ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ และราคารถยนต์มือสอง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ