ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.15% สู่ระดับ 0.10% จากระดับ 0.25% เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.91% ปิดที่ 287.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,855.50 จุด เพิ่มขึ้น 100.67 จุด หรือ +2.68%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,610.43 จุด เพิ่มขึ้น 168.72 จุด หรือ +2.00% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,151.61 จุด เพิ่มขึ้น 71.03 จุด หรือ +1.40%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินล่าสุด และได้เพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 2 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 6.45 แสนล้านปอนด์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (8.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มเทเลคอมปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ธุรกิจนี้บางส่วนอาจจะได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหุ้นดอยซ์ เทเลคอม พุ่ง 6.76% และหุ้นเวอริซอน บวก 0.32%
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นมากกว่า 3% จากระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น โดยหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 5.73% และหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 3.02%
หุ้นไบเออร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.6% หลังมีรายงานว่า บริษัทได้ร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19