ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.82% ปิดที่ 293.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,048.80 จุด เพิ่มขึ้น 193.31 จุด หรือ +5.01%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,928.95 จุด เพิ่มขึ้น 318.52 จุด หรือ +3.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,190.78 จุด เพิ่มขึ้น 39.17 จุด หรือ +0.76%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ แต่ยังคงติดลบเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยตลาดได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษออกมาตรการฉุกเฉินในวันพฤหัสบดี และยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า มีการออกพันธบัตรรัฐบาลในทวีปยุโรปเพื่อระดมทุนสำหรับการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.15% สู่ระดับ 0.10% จากระดับ 0.25% เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่เมื่อวันพุธ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (8.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ด้าน Der Spiegel ซึ่งเป็นสื่อของเยอรมนี รายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาตั้งกองทุนวงเงิน 5 แสนล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ นำตลาดปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นพลังงานที่ดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อต้นสัปดาห์
หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเทเลคอม และกลุ่มเฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการเข้าซื้อหุ้น
หุ้นซาฟรานและหุ้นแอร์บัสของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 19.28% และ 18.70% ตามลำดับ, หุ้นไฮเดลเบิร์กซีเมนส์และหุ้นอลิอันซ์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 10.39% และ 10.35% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นคาร์นิวาล และหุ้นอีซี่เจ็ตของอังกฤษ พุ่งขึ้น 20.16% และ 18.30% ตามลำดับ