ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้น หลังขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้การแพร่ะระบาดในยุโรปจะยังไม่มีสัญญาณที่ชะลอตัวลงแต่อย่างใด
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.09% ปิดที่ 313.38 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,432.30 จุด เพิ่มขึ้น 189.60 จุด หรือ +4.47%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,874.26 จุด เพิ่มขึ้น 173.69 จุด หรือ +1.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,688.20 จุด เพิ่มขึ้น 242.19 จุด หรือ +4.45%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากการที่ทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เป็นวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดว่า รัฐบาลต่างๆ ของประเทศในยุโรปจะเพิ่มมาตรการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 และมีรายงานว่า เยอรมนีสนับสนุนให้มีการใช้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ
หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ นำตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นที่ระดับต่ำหลังจากร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ได้ดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าว โดยหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 7.35% และหุ้นบีพี ทะยานขึ้น 8.66%
หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม บวก 4.29%, หุ้น IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ เพิ่มขึ้น 6.77%, หุ้นไรอันแอร์ ปรับตัวขึ้น 3.72% และหุ้นอีซี่เจ็ต พุ่งขึ้น 12.07%