ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกของนักลงทุนที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนถดถอยลงอย่างหนัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.97% ปิดที่ 309.06 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,154.58 จุด ลดลง 66.37 จุด หรือ -1.57%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,525.77 จุด ลดลง 45.05 จุด หรือ -0.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,415.50 จุด ลดลง 64.72 จุด หรือ -1.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ดิ่งลงสู่ระดับ 26.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 52.6 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของยูโรโซนเผชิญภาวะหดตัว หลังจากมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเวลากว่า 6 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของยูโรโซน จะหดตัวลงมากถึง 43% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศต่างๆ ขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะงักงัน
หุ้นกลุ่มประกันถ่วงตลาดลงมากที่สุด หลังหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบของสหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้บริษัทประกันระงับการจ่ายเงินปันผล และการซื้อคืนหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วย โดยถูกกดดันหลังจากหลายธนาคารประกาศงดจ่ายเงินปันผลเมื่อต้นสัปดาห์นี้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดีจากความหวังว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะยุติสงครามราคาน้ำมัน
หุ้นมิวนิค รี ร่วง 3.28%, หุ้นเชลล์ ลบ 1.39%, หุ้นบีพี ร่วง 4.54%, หุ้นเอชเอสบีซี ลดลง 0.67%, หุ้นบาร์เคลย์ส ลบ 1.69%, หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วง 5.03% และหุ้นดอยซ์ แบงก์ ปรับตัวลง 1.42%