ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนีที่ทะยานขึ้นเกือบ 6% หลังจากมีรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลง ซึ่งได้เพิ่มความหวังว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ อาจจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.73% ปิดที่ 320.58 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,346.14 จุด เพิ่มขึ้น 191.56 จุด หรือ +4.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,075.17 จุด เพิ่มขึ้น 549.40 จุด หรือ +5.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,582.39 จุด เพิ่มขึ้น 166.89 จุด หรือ +3.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังอิตาลีซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลกนั้น รายงานยอดผู้เสียชีวิตรายวันต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
อัตราการเสียชีวิตรายใหม่ในสเปนชะลอลงเป็นวันที่ 4 และยอดผู้เสียชีวิตรายวันในฝรั่งเศสลดลงด้วย ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่ถูกส่งเข้าห้องไอซียูชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐแสดงความหวังว่า วิกฤตสุขภาพเริ่มทรงตัวในบางรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
หุ้นทุกกลุ่มดีดตัวขึ้น นำโดยกลุ่มการเดินทางและสันทนาการที่ทะยานขึ้นกว่า 8% หลังร่วงลง 3 วันติดต่อกัน และหุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นแอคคอร์ พุ่งขึ้น 12.92%, หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่ง 18.32%, หุ้นเรโนลต์ ทะยานขึ้น 14.17% , หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่ง 14.20% และหุ้นเดมเลอร์ พุ่ง 11.52%