ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น แม้นักลงทุนยังคงระมัดระวังกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากขึ้นได้เปิดเผยคาดการณ์งบการเงินที่น่ากังวล
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.80% ปิดที่ 330.14 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,411.80 จุด เพิ่มขึ้น 54.34 จุด หรือ +1.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,415.03 จุด เพิ่มขึ้น 165.18 จุด หรือ +1.61% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,770.63 จุด เพิ่มขึ้น 129.60 จุด หรือ +2.30%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นจากแนวโน้มที่จะมีการปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก และการฟื้นตัวของราคาน้ำมันยังส่งแรงหนุนไปยังตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ด้วย
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 6.00%, หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่ง 4.78% และหุ้นโททาล พุ่งขึ้น 4.76%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นบีเอชพี พุ่ง 3.05% และหุ้นริโอ ทินโต พุ่ง 3.69%
ตลาดหุ้นอิตาลีปิดในแดนบวกได้ หลังนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลีเปิดเผยว่า อิตาลีเตรียมที่จะประกาศผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 4 พ.ค.นี้ และจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกทั่วโลก และนักลงทุนจะจับตาผลการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะหารือเกี่ยวกับการใช้งบประมาณระยะยาวร่วมกันเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐจะอนุมัติมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากวุฒิสภาอนุมัติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น แม้ธนาคารชั้นนำของยุโรปเตรียมกันเงินสำรองหลายพันล้านยูโรเพื่อชดเชยหนี้สูญที่อาจจะเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
หุ้นโรช โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 2.10% หลังยืนยันแนวโน้มยอดขายและผลกำไรในปีนี้ ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับชุดทดสอบหาเชื้อโควิด-19 ของโรช