ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยที่เกิดจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษช่วยหนุนตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,067.16 จุด เพิ่มขึ้น 64.93 จุด หรือ +1.08%
ตลาดปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยหลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดดำเนินการภาคเศรษฐกิจต่างๆ อีกครั้ง หลังจากที่ต้องปิดทำการเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งของบริษัทเอ็กซ์พีเรียนซึ่งเป็นบริษัทด้านข้อมูลเครดิตรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเอ็กซ์พีเรียน พุ่งขึ้นมากกว่า 7% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 สัปดาห์ หลังรายงานรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในเดือนหน้า หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนเม.ย.ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2559
รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2559 หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง และผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าปรับลดราคาลง ขณะที่อัตราค่าไฟฟ้าปรับตัวลงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.8% จากระดับ 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าอาจลดลงสู่ระดับ 0.9%
หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังบริษัทรายงานว่า บริษัทมีแผนจะปรับลดพนักงานลงอย่างน้อย 9,000 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 52,000 ตำแหน่งทั่วโลก เพื่อรับมือกับตลาดการบินที่หดตัวลงอย่างรุนแรงท่ามกลางการแพร่ระบาดทั่วโลกของโรคโควิด-19