ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 700 จุดในวันนี้ ขานรับข่าวดีจำนวนมากที่เข้ามาในตลาด เช่น ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งความคืบหน้าในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
ณ เวลา 21.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,514.02 จุด บวก 750.86 จุด หรือ 2.91%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.0% หลังจากดิ่งลง 14.7% ในเดือนเม.ย.
ยอดค้าปลีกแตะระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ระดับ 6.7% ในเดือนต.ค.2544
ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ขณะเดียวกัน คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
แหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงคมนาคมของสหรัฐกำลังเตรียมแผนการดังกล่าวในเบื้องต้น โดยจะมีการนำเม็ดเงินส่วนใหญ่ไปใช้ในการก่อสร้างถนนและสะพาน นอกจากนี้ จะมีการกันเม็ดเงินส่วนหนึ่งสำหรับโครงการ 5G และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในชนบท
นอกจากนี้ เฟดประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายคริส วิตตี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการใช้ยา dexamethasone ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ ในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ถือเป็นผลการทดลองที่มีความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การใช้ยา dexamethasone สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 1 ใน 3
"ยาดังกล่าวสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ หรือขาดออกซิเจน และจะช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลก" นายวิตตีกล่าว
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย
ที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนก.พ. และอีกครั้ง ในเดือนมิ.ย.หรือก.ค.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ