ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขานรับความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งได้แรงหนุนจากแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นด้านการเงินและการคลังครั้งใหญ่ ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่ง 2.90% ปิดที่ 363.33 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,952.46 จุด เพิ่มขึ้น 136.75 จุด หรือ +2.84%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,315.66 จุด เพิ่มขึ้น 404.31 จุด หรือ +3.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,242.79 จุด เพิ่มขึ้น 178.09 จุด หรือ +2.94%

ตลาดดีดตัวขึ้นอย่างมากขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มซื้อตราสารหนี้เอกชนผ่านทางตลาดรองตั้งแต่วันอังคารนี้ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด

ทั้งนี้ เฟดประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19

นอกจากนี้ รายงานที่ว่า บรรดาบริษัทของสหรัฐอาจได้รับอนุญาตให้ร่วมงานกับบริษัทหัวเว่ยของจีนเกี่ยวกับมาตรฐานใหม่ของระบบสื่อสารไร้สาย 5G ก็ได้ช่วยคลายความวิตกด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนด้วย

หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น อาทิหุ้นกลุ่มเดินทาง, สันทนาการ, ก่อสร้าง, ธนาคาร และรถยนต์

หุ้น Cineworld พุ่งขึ้น 1% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดของบริษัทภายในเดือนก.ค.นี้

หุ้นลุฟท์ฮันซา พุ่งขึ้น 2.5% หลังเปิดเผยว่า บริษัทกำลังเตรียมทำข้อตกลงกับตัวแทนพนักงานภายในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เกี่ยวกับการปรับลดพนักงานประจำจำนวน 22,000 ตำแหน่ง