ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 208.64 จุด ข่าว"แอปเปิล"ปิดสโตร์ในสหรัฐทุบตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 20, 2020 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ และบริษัทแอปเปิล อิงค์ ประกาศปิดสโตร์ในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,871.46 จุด ร่วงลง 208.64 จุด หรือ -0.80% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,097.74 จุด ลดลง 17.60 จุด หรือ -0.56% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,946.12 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด หรือ +0.03%

อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.9% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.7%

ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางในช่วงฤดูร้อน ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์

การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเป็นไปอย่างผันผวนในวันนี้ เนื่องจากเป็นวัน Quadruple Witching Day ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบสัญญาฟิวเจอร์หุ้น, สัญญาฟิวเจอร์ดัชนีหุ้น, ออปชั่นหุ้น และออปชั่นดัชนีหุ้น

ตลาดปรับตัวลง หลังมีรายงานว่าบริษัทแอปเปิลประกาศแผนปิดทำการแอปเปิล สโตร์หลายแห่งเป็นการชั่วคราวในรัฐฟลอริดา, แอริโซนา, เซาท์แคโรไลนา และนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

หุ้นแอปเปิล ปิดลบ 0.57%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในบางรัฐ ทำให้ตลาดวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐหลังได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว

มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ ช่วงบ่ายวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุ 2.2 ล้านรายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 119,000 ราย

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เข้าสู่เฟสใหม่ที่อันตราย

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนในการประชุมทางไกลในวันศุกร์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบของโควิด-19 นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย และไม่มีสูตรลัดในการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดลดลง นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งร่วงลง 3.1% ขณะที่กลุ่มเฮลธ์แคร์ เพิ่มขึ้น 0.87% และเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้น

หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการร่วงลง โดยหุ้นนอร์วีเจียน ครุยส์ ไลน์ โฮลดิ้งส์ ร่วง 5.64%, หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วง 5.26% และหุ้นรอยัล แคริบเบียน ร่วง 6.87% หลังจากสมาคมเรือสำราญนานาชาติ ประกาศระงับการเดินเรือโดยสมัครใจจากท่าเรือต่างๆ ในสหรัฐไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย. อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่คำสั่งห้ามการเดินเรือในปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 24 ก.ค.นี้

หุ้นเอเอ็มซี เอ็นเทอร์เทนเมนต์ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วง 2% หลังจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับการใช้มาตรการชัตดาวน์อีกครั้งในสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อแผนการของบริษัทที่จะเปิดทำการโรงภาพยนตร์ประมาณ 450 แห่งทั่วสหรัฐในเดือนหน้า

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ ลดลง 0.1% สู่ระดับ 1.042 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2561 จากระดับ 1.043 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะอยู่ที่ระดับ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ