ดาวโจนส์ร้อนแรงพุ่งกว่า 400 จุด รับข่าว"โบอิ้ง",ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 29, 2020 23:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 400 จุด โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวของหุ้นโบอิ้ง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ณ เวลา 23.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,472.04 จุด บวก 456.49 จุด หรือ 1.82%

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้

ราคาหุ้นของบริษัทโบอิ้งพุ่งขึ้น 5.6% ขานรับข่าวที่ว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) จะเริ่มดำเนินการทดสอบการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ในวันนี้ ก่อนที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะกลับมาให้บริการในปลายปีนี้

นักลงทุนมองว่าการทดสอบการบินดังกล่าวเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญ หลังจากที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ถูกสั่งห้ามบินเป็นเวลากว่า 15 เดือน หลังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งในเวลาห่างกันเพียง 5 เดือน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 346 ราย

โฆษกของโบอิ้งกล่าวว่า "เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้เครื่องบินรุ่น 737 Max กลับมาให้บริการได้อีกครั้งอย่างปลอดภัย"

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 44.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ NAR เริ่มทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนม.ค.2544 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 15% หลังจากดิ่งลง 22% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การทะยานขึ้นของดัชนีในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่อยู่ในระดับต่ำ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสพุ่งขึ้นสู่ระดับ 13.6 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -28.0 ในเดือนพ.ค.

ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. หลังจากทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีมีค่าเป็นบวกในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในเท็กซัส

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.9 จากระดับ -30.6 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีมีค่าเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ส่วนดัชนีการจ้างงานดีดตัวสู่ระดับ -1.5 จากระดับ -11.5 ในเดือนพ.ค.

ผู้ถูกสำรวจระบุว่ามีความไม่แน่นอนที่จะเกิดการระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 แต่สิ่งนี้ไม่ได้กระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด

ทางด้านกรมศุลกากรของเมืองเทียนจินเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนมีการนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 2.72 ล้านตันผ่านท่าเรือเทียนจินในเดือนม.ค.-พ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 62% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

กรมศุลกากรระบุว่า การนำเข้าถั่วเหลืองส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของการนำเข้าทั้งหมด

ทั้งนี้ จีนนำเข้าถั่วเหลืองสำหรับการสกัดน้ำมันถั่วเหลือง และการผลิตอาหารสัตว์ หลังจากที่การผลิตสุกรในประเทศได้กลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งทำให้อุปสงค์ในการนำเข้าถั่วเหลืองพุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากหลายรัฐของสหรัฐกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้น

นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐ กล่าวเตือนว่า สหรัฐใกล้หมดเวลาในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่กำลังมีการระบาดไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคตะวันตก

"เรามีเครื่องมือที่จะดำเนินการ แต่เวลากำลังหมดลง โดยเราจำเป็นต้องทำ และประชาชนจะต้องแสดงความรับผิดชอบ เราต้องรักษาระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากากอนามัย" นายอาซาร์กล่าว

อย่างไรก็ดี คำเตือนของนายอาซาร์สวนทางคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งระบุว่า สหรัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้แล้ว และการที่มีการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากก็เป็นเพราะสหรัฐมีการเพิ่มปริมาณการตรวจคัดกรองผู้ที่มีแนวโน้มติดเชื้อ

ทางด้านนายทอม ฟรีดเดน อดีตผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อมีสาเหตุจากการที่รัฐต่างๆมีการเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป

ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,637,180 ราย และมีผู้เสียชีวิต 128,438 ราย โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ