ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.67% ปิดที่ 366.48 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,981.13 จุด ลดลง 62.59 จุด หรือ -1.24%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,494.81 จุด ลดลง 121.99 จุด หรือ -0.97% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,156.16 จุด ลดลง 33.74 จุด หรือ -0.55%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งทะลุ 3 ล้านรายแล้วในสหรัฐ และรัฐฟลอริดาขาดแคลนเตียงสำหรับการรักษาผู้ป่วยวิกฤต
ส่วนยอดติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุ 12 ล้านรายแล้ว และองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไม่น่าประหลาดใจ หากจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากโรคโควิด-19
คณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO ออกมายอมรับว่า งานวิจัยประเด็นโรคโควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้ดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ 239 คนเขียนจดหมายเปิดผนึกที่ระบุว่า โรคโควิด-19 อาจแพร่ผ่านระบาดทางอากาศได้ พร้อมกระตุ้นเตือนประชาคมระหว่างประเทศให้บังคับใช้มาตรการควบคุม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายทางอากาศ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน หลังจากนางกิตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ประเทศจำนวนมากอาจจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากการกู้ยืมพุ่งขึ้น
หุ้นกลุ่มรถยนต์นำตลาดร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มต่างๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวลง
หุ้นเอชเอสบีซีของอังกฤษ ร่วง 2.91% หลังมีข่าวว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกำลังพิจารณาข้อเสนอที่จะยกเลิกการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจำกัดความสามารถของธนาคารฮ่องกงในการซื้อดอลลาร์
หุ้นโนเกียของฟินแลนด์ ร่วง 8.05% หลังเจพีมอร์แกนปรับลดคำแนะนำลงทุนเป็น "ลงทุนปานกลาง" เนื่องจากวิตกว่า โนเกียจะสูญเสียเวริซอนซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญให้กับซัมซุง