ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกตึงเครียดสหรัฐ-จีน,ยอดโควิดพุ่งไม่หยุด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐ-จีน และยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.87% ปิดที่ 373.44 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,037.12 จุด ลดลง 67.16 จุด หรือ -1.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,104.25 จุด ลดลง 67.58 จุด หรือ -0.51% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,207.10 จุด ลดลง 62.63 จุด หรือ -1.00%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 1 เดือน โดยถูกกดดันจากความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากจีนเปิดเผยว่าสหรัฐได้สั่งปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตัน ขณะที่จีนกำลังพิจารณาที่จะปิดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองอู่ฮั่น

นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งทะลุระดับ 15 ล้านรายแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเตือนว่า การแพร่ระบาดจะเลวร้ายลงอีกก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้น

ปัจจัยลบดังกล่าวถ่วงตลาดลง หลังตลาดได้แรงหนุนก่อนหน้านี้จากการที่สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติข้อตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักที่สุด เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงโดยถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสหรัฐ โดยหุ้นบีพี, เชลล์ และโททาล ร่วงลง 3.83%, 3.60% และ 3.14% ตามลำดับ

หุ้นมิเชลินของฝรั่งเศส ร่วงลง 3.16%, หุ้นคอนติเนนทัลของเยอรมนี ลดลง 2.00% และหุ้นเบอเบอร์รี กรุ๊ปของอังกฤษ ร่วง 4.10%