ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ทะลุแนว 28,000 ในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,124.35 จุด บวก 332.91 จุด หรือ 1.2%
ถึงแม้อาจจะมีผู้ที่ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการที่รัสเซียสามารถพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ แต่ข่าวดังกล่าวก็ได้จุดประกายความหวังให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการแข่งขันกันผลิตวัคซีนดังกล่าว ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 20 ล้านราย
หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มเรือสำราญ กลุ่มกาสิโน และกลุ่มค้าปลีก ต่างก็ดีดตัวขึ้น
สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
"เท่าที่ผมทราบ รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก" ปธน.ปูตินกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีรัสเซียวันนี้
"วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมาก โดยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันอย่างมีเสถียรภาพ และวัคซีนนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว" ปธน.ปูตินกล่าว
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกในเวลาไม่ถึง 2 เดือน และจะมีการเริ่มทดลองในเฟส 3 ในไม่ช้า
นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังเปิดเผยว่า บุตรสาวคนหนึ่งของเขาได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว โดยได้เข้าเป็นอาสาสมัครคนหนึ่งในโครงการทดลองวัคซีน
นางเคลลีแอนน์ คอนเวย์ ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะจัดการแถลงข่าวในวันนี้ หลังจากที่ทางการรัสเซียอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรกในโลก
"ท่านประธานาธิบดีจะได้รับการสรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนที่ทำเนียบขาวในวันนี้ และหลังจากนั้นท่านจะเปิดการแถลงข่าว" นางคอนเวย์กล่าว
ขณะเดียวกัน ตลาดยังขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้
นายมนูชินกล่าวว่า ยังคงมีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกฎหมายดังกล่าวจะสามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัว 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากร่วงลง 0.8% ในเดือนมิ.ย.
ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และลดลง 0.7% เมื่อเทียบรายปี