ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในยูโรโซนขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. หลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.11% ปิดที่ 374.88 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,280.12 จุด เพิ่มขึ้น 125.78 จุด หรือ +2.04%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,058.63 จุด เพิ่มขึ้น 111.74 จุด หรือ +0.86% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,073.31 จุด เพิ่มขึ้น 45.32 จุด หรือ +0.90%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังยูโรสแตทรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 9.1% ในเดือนมิ.ย. แม้ต่ำกว่าการขยายตัว 12.3% ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 10%
เมื่อเทียบเป็นรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 12.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 20.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะลดลง 11.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปด้วย โดยหุ้นเอบีเอ็น แอมโร พุ่งขึ้น 7.4% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 สูงเกินคาด
หุ้นกลุ่มเทเลคอม และกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนตลาดด้วย