ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 161.60 จุด ขณะ S&P500-Nasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday August 29, 2020 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีเกินคาด และหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,653.87 จุด เพิ่มขึ้น 161.60 จุด หรือ +0.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,508.01 จุด เพิ่มขึ้น 23.46 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,695.63 จุด เพิ่มขึ้น 70.30 จุด หรือ +0.60%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.6%, S&P500 ปรับตัวขึ้น 3.3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.4% และดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นราว 8% แล้วในเดือนส.ค.ซึ่งนับเป็นเดือนที่ดีที่สุดในปีแห่งการเลือกตั้งของสหรัฐ

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มพลังงานและวัสดุ พุ่งขึ้น 1.85% และ 1.1% ตามลำดับ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 6 และดัชนี Nasdaq แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเข้าสู่แดนบวกแล้วเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปิดบวกได้ในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน และดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มปิดตลาดปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.ซึ่งจะเป็นเดือนส.ค.ที่ดีที่สุดในรอบ 34 ปี

ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเขาได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ

ตลาดยังปรับตัวขึ้นขานรับที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะลงนามในข้อตกลงเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่โครงการเงินช่วยเหลือการว่างงานฉุกเฉินหมดอายุมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และหุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 3.1% และ 3.3% ตามลำดับ เนื่องจากทั้งสองบริษัทพยายามที่จะปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างพนักงานและการให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจ

บริษัทเวิร์คเดย์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟท์แวร์ธุรกิจ พุ่งขึ้น 12.6% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์สมาชิกต่อปี และหุ้นเดล เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 6.1% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาด

หุ้นวอลมาร์ทและหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 2.7% และ 1.0% ตามลำดับ หลังวอลมาร์ทประกาศจับมือกับไมโครซอฟท์เพื่อเสนอซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐจากบริษัทไบต์แดนซ์ของจีน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ