ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 200 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทดีดตัวต่อเนื่องจากวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 15, 2020 19:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

ณ เวลา 19.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 224 จุด หรือ 0.80% สู่ระดับ 28,095 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และกระแสข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงข่าวบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐให้กับบริษัทออราเคิล นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ก่อนที่บริษัทจะจัดแอปเปิลอีเวนต์ในวันนี้

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch และ iPad รุ่นใหม่ในวันนี้ ส่วน iPhone 12 จะมีการเปิดตัวในเดือนต.ค.

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างดีดตัวขึ้นตามกันในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้รับแรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้

นอกจากนี้ ดัชนียังได้ปัจจัยบวกจากการที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ จะกลับมาทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 อีกครั้ง หลังจากที่ได้ระงับโครงการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอาสาสมัครรายหนึ่งมีอาการอักเสบที่ระบบประสาทในไขสันหลังอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ

ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าว ส่งผลให้มีแนวโน้มน้อยลงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ